เกาะลิบง

เกาะลิบง เป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดของจังหวัดตรัง อยู่ในเขตอำเภอกันตัง จังหวัดตรัง เป็นแหล่งหญ้าทะเลแหล่งใหญ่ที่สุดของประเทศ ซึ่งเป็นอาหารของเหล่าพะยูน นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งดูนกทะเลชนิดต่าง ๆ ประกอบกับทิวทัศน์ของชายหาดที่มีความสวยงาม จึงทำให้ที่นี่เหมือนเป็นดั่งสวรรค์น้อย ๆ สำหรับคนที่หลงรักการเที่ยวทะเล

บนเกาะลิบงประกอบด้วยหมู่บ้านทั้งหมด 3 หมู่บ้าน ได้แก่ “บ้านพร้าว” “บ้านบาตูปูเต๊ะ” และ “บ้านหลังเขา” ซึ่งทั้ง 3 หมู่บ้านเชื่อมโยงด้วยถนนอิฐบล็อก กว้างพอที่จะให้รถยนต์สัญจรผ่านไป-มา ชาวบ้านส่วนใหญ่ที่นี่ยังคงประกอบอาชีพประมง สวนยางพารา และสวนผลไม้เป็นหลัก วิถีชีวิตและวัฒนธรรมชาวบ้านที่เรียบง่ายเหล่านี้จึงเป็นอีกหนึ่งเอกลักษณ์ประจำเกาะลิบงที่ชวนหลงใหล

เกาะลิบงเป็นบ้านหลังใหญ่ของพะยูน เกาะลิบง เป็นแหล่งพบฝูงพะยูนมากที่สุดในประเทศไทย ด้วยเหตุผลที่ว่าเกาะลิบงอุดมสมบูรณ์ด้วยหญ้าทะเล ซึ่งเป็นอาหารของเหล่าพะยูน สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่อยู่ในภาวะใกล้สูญพันธุ์ ซึ่งชาวลิบงเองร่วมกันอนุรักษ์ด้วยหัวใจ

ด้วยพื้นฐานของพะยูนเป็นสัตว์ที่ตกใจง่าย ดังนั้นนักท่องเที่ยวที่ต้องการชมวิถีชีวิตของเหล่าพะยูน แนะนำว่าให้ขึ้นไปบน “หอชมวิถีสัตว์น้ำ (หอชมพะยูน)” ตั้งอยู่บริเวณปลายสุดของสะพานหลีกภัย หรือไม่ก็ที่ “ยอดเขาบาตูปูเต๊ะ” แต่จากหลายต่อหลายเสียงบอกว่าหอชมวิถีสัตว์น้ำมีความสูงไม่มากพอจะทำให้มองเห็นฝูงพะยูน

ดังนั้นแนะนำว่าไปที่เขาบาตูปูเต๊ะจะดีกว่า นักท่องเที่ยวอาจจะต้องเสียเหงื่อออกแรงทั้งเดินและปีนป่ายอยู่เสียหน่อย เพื่อขึ้นไปยังลานดูพะยูน ทั้งนี้การขึ้นมาดูพะยูนบริเวณดังกล่าว ส่งผลดีและเหมาะสมต่อการดูพะยูนมากที่สุด เพราะไม่เป็นการรบกวนพะยูนในเวลาหากินนั่นเอง (ส่วนใหญ่พะยูนจะออกมาหากินในช่วงเวลาน้ำลด)

Libong Island

Libong Island, or Koh Libong, is the largest island in Trang Province located in Kantang District. It is the largest source of seagrass, which is the food of the dugongs, in the country. Besides, it’s also a place to watch various seabirds along with beautiful beach scenery that make this island a little paradise for those who are beach lovers.

There are 3 villages on Libong Island which are “Baan Praw” “Baan Batuputae” and “Baan Lang Khao”. These 3 villages were connected by brick-block roads that wide enough for cars to pass by. Most of the villagers here are still earn a living mainly by fishing, planting rubber trees, and farming fruits. This simple lifestyle and culture of the villagers here are also another fascinating identity of Libong Island.

Libong Island is a huge house of dugongs, it is a place that can find most dugongs in Thailand. By the reason that Libong Island is rich with seagrass that is the food of the dugongs, which are endangered mammals that Libong’s local people help conserving them with all their hearts.

Basically, dugongs are a type of animals that easily frightened, so we recommend any tourists who want to observe the life of dugongs to go up on “Aquatic animal Observation Tower (Dugongs Observation Tower)” that is located at the end of Leekpai Bridge or at “the peak of Batuputae hill”, but many people say that the aquatic animal observation tower isn’t high enough to see the dugong herd, so it’s better to go to Batuputae hill.

Tourists may have to walk and climb a bit to go up to the dugongs spotting area. However, coming up to see the dugongs at this area is the best way to go dugong spotting because it won’t disturb the dugongs when they’re searching for food. (They’re mostly searching for food at low tide.)

Libong岛

Libong岛是董里府Kantang区最大的岛屿,董里府也是全泰国最大的海草基地,也是海牛的食物基地。除此之外,也是伴随着美丽的海滩风景的各种海鸟观察基地,使得热爱出海的人来说就是个小天堂。

Libong岛上有三个村庄组成,即:“有三个村庄:“班披(Ban Phrao)”,“班巴图普特(Ban Batu Pute)”和“山上小屋”(House on the Hill),三个村庄均通过足够宽的砖砌路相连,汽车也能通行。多数村名的职业以渔业、橡胶园和水果园为主,这些简单的生活方式和民间文化是Libong岛令人着迷的另一个特征。

Libong岛是海牛的大后院也是泰国最大的海牛基地,因为Libong岛富含的海草是海牛的食物  Libong的当地人用心保护这种濒危的哺乳动物

在海牛是一种容易受到惊吓的动物,因此,想要观察海牛生活方式的游客建议在桥的尽头观察“水族箱(海牛观察箱)”或是去到Batu Pute山顶,可是有很多游客反馈说水族箱过高没法看到更多的海牛群,有人建议说去Batu Pute山更好,虽然这可能会使游客因为爬到观景平台看海牛而出一身汗,但是上来到这个观景处的最大的好处是能看到最多的海牛,因为这样并没有影响到海牛觅食的时间(大多数海牛是在退潮时候出来觅食)。