ถ้ำมรกต

ถ้ำมรกต มีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งในหมู่ชาวบ้านท้องถิ่นว่า ถ้ำน้ำ เนื่องด้วยเหตุว่าถ้ำแห่งนี้เป็นถ้ำกลางทะเลและเส้นทางเข้า – ออกของถ้ำจะเปิดกว้างออกหรือหุบแคบลงจนกระทั่งปิดตามระดับน้ำทะเลที่ขึ้นลงระหว่างวัน หากคุณเดินทางมาเยือนถ้ำมรกตในช่วงเวลาที่ไม่เหมาะสมก็อาจทำให้การว่ายน้ำเข้า-ออกจากถ้ำเป็นไปด้วยความยากลำบาก โดยปกติทีมงานมัคคุเทศก์ประจำทัวร์ถ้ำมรกตจะต้องคอยตรวจสอบระดับน้ำขึ้นน้ำลงแล้วจัดสรรเวลาในการพานักท่องเที่ยวเข้า-ออกจากถ้ำอย่างเหมาะสม ส่วนสาเหตุที่ทำให้คนส่วนใหญ่นิยมเรียกชื่อถ้ำแห่งนี้ว่า “ถ้ำมรกต” แทนที่จะเรียกกันว่า “ถ้ำน้ำ” ตามแบบชาวบ้านท้องถิ่น ก็เพราะในขณะที่เรากำลังว่ายน้ำออกจากถ้ำ เราจะสามารถมองเห็นแสงแดดส่องทะลุพื้นน้ำใสเบื้องล่างแล้วสะท้อนกลับขึ้นมาบนผิวน้ำและผนังถ้ำเป็นประกายสีเขียวเรืองรองคล้ายกับมรกตนั่นเอง

การเข้าไปภายในถ้ำ นักท่องเที่ยวไม่สามารถนั่งเรือเข้าไปได้ โดยเมื่อเรือนำเที่ยวมาจอด ทางไกด์จะให้นักท่องเที่ยวลงน้ำไปรวมหมู่อยู่บริเวณหน้าปากอุโมงค์เข้าถ้ำ จะเข้าด้วยการลอยคอเกาะไหล่คนข้างหน้าแบบแถวตอนเรียงหนึ่งเป็นแถวเป็นขบวนยาว โดยมีไกด์นำหน้าเป็นหัวขบวน

จากนั้นจึงค่อยๆตีขาปั่นจักรยานน้ำลอยตัวเข้าไปในโพรงถ้ำประมาณ 80 เมตร ช่วงแรกเราจะมองเห็นผืนน้ำอันใสแจ๋วสะท้อนแสงกับผนังถ้ำเป็นสีมรกตสวยงาม ก่อนที่โลกจะเปลี่ยนไปเข้าสู่โหมดแห่งความมืด จากค่อยๆมืดไปจนถึงมิดสนิท ไม่สามารถมองเห็นสิ่งรอบตัว ซึ่งถือเป็นช่วงตื่นเต้นลุ้นระทึกให้แต่ละคนลอยตัวเกาะคนข้างหน้าแน่น แต่ว่าก็เป็นเพียงช่วงระยะเวลาสั้นๆ เพราะหลังจากนั้นไม่นานแสงสว่างรางๆจะค่อยๆปรากฏ แล้วเพิ่มความเด่นชัดขึ้นจนมองเห็นผืนแผ่นน้ำทะเลที่สะท้อนแสงใสแจ๋วแวววับดุจดังมรกตอีกครั้ง

ในส่วนท้ายที่สุด ซึ่งต้องยกให้เป็นไฮไลท์ของถ้ำแห่งนี้คงเป็นในช่วงของ ถ้ำลอด หรือ ถ้ำมังกร ที่นักนั่นเป็นการแสดงว่าเราได้เข้ามาถึงภายในถ้ำมรกตเรียบร้อยแล้ว ภายในถ้ำมรกตมีลักษณะเป็นหุบเขาขนาดใหญ่ เกิดจากการยุบตัวในอดีตเกิดเป็นแอ่งน้ำและชายหาดขนาดย่อมอยู่ภายในหุบเขา มีต้นไม้น้อยใหญ่ขึ้นปกคลุมเขียวครึ้มปิดล้อมพื้นที่ทำให้เกิดบรรยากาศดุจดังสระน้ำธรรมชาติขนาดใหญ่อันเขียวใสสวยงามท่ามกลางผนังธรรมชาติของภูผาหิน ชวนทึ่งในความมหัศจรรย์ของธรรมชาติไม่น้อย เป็นหนึ่งใน Unseen ที่ครั้งนึงต้องไปให้ได้

Emerald Cave (Morakot Cave)

Emerald Cave is also known among the local people as Water Cave, because it is a cave in the middle of the sea, the entrance and the exit route of the cave open and close according to the sea level. If you visit the Emerald Cave at the wrong time, it may be difficult to swim in and out of the cave. Normally, a team of Emerald Cave tour guides will have to monitor the tide level and choose the right time to guide tourists to the cave.

As for the reason why are most people called this cave “Emerald Cave” instead of “Water Cave”, like how local people called it, is because while swimming out of the cave, we will be able to see the sunlight shines through the clear water below and reflects emerald-colored light all over the cave’s wall.

To enter the cave, tourists can’t go in by boat. When the tour boat stops near the cave, the guide will let the tourists go into the water and gather in front of the cave entrance tunnel, then entering the cave by grabbing the shoulder of the person who is in front of you. The guide will lead the line of tourists into the cave.

Slowly swim into the cave about 80 meters. At first, we will see crystal clear water reflecting the cave’s wall giving beautiful emerald-like water. Then everything will turn dark, from gradually darkened to complete darkness, unable to see anything around you, which is considered as a thrilling experience but only for a short period, because a faint light will gradually appear when time passes. Then it will be bright enough for you to see the sea surface dazzlingly reflecting the light again.

Inside the Emerald Cave, there are various sizes of trees covering the surrounding area, creating an atmosphere like a large natural pool of beautiful greenery among the natural walls of the limestone mountain. A paradisiacal place creating by nature, it is one of Unseen Thailand that you should visit once in a lifetime.

翡翠洞

翡翠洞,当地人还叫水洞穴,由于这处洞穴位于海中央,洞穴的出入线路随着每天的潮涨潮落变宽变窄。如果你去洞穴的时间不合适,那游泳进出洞穴就会特别困难。因此通常有固定的翡翠洞向导检查洞穴进出的时间还有水位线的涨落情况,并且在合适的时间带着游客进出洞穴。至于另一部分人用“翡翠洞”来代替当地人取名“水洞穴”其原因是,当我们游着离开洞穴的时候,可以看到夕阳的光线照印在海面上并反射在水面上和洞穴壁上的光芒是像绿宝石一样的颜色。

进入洞穴的时候没法坐船进入其原因是游船需要停船让游客下水,在洞穴入口区域集合由导游带领入洞,很多人的船才洞口就排成了很长的队伍。

在洞穴入口约80米有水上自行车可以骑,从伸手不见五指并且让人感到紧张恐惧的黑暗洞穴进入,第一眼映入眼帘的是满洞穴耀眼璀璨的绿宝石颜色,但是这个时刻非常短暂,因为光线短暂不够长时间维持这种现象,但是可以在之后再一次看到整片海面反射着璀璨的绿宝石光芒。

进入到绿宝石洞穴内看到如此精彩的展现后,又可以看到绿宝石洞穴内部有着大规模的沟壑,这个沟壑是由于过去的水洼和内部的沙滩下沉而形成的。石头沟壑中有着成片苍翠欲滴的树木就好像是绿意盎然的大水池。只有亲自去到才能看到不可一见的大自然的奇妙之处。